ภูมิปัญญาผลิตข้าวซ้อมมือของชุมชนตำบลท่าซัก
ข้อมูลทั่วไปตำบลท่าซัก
ตำบลท่าซัก อยู่ในเขตพื้นที่การปกครองของอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ระยะห่างจากที่ว่าการอำเภอเมืองประมาณ ๔.๕ กิโลเมตร พื้นที่ทั้งหมด ๔๕.๐๘๐ ตารางกิโลเมตร จำนวน ๙ หมู่บ้าน พื้นที่ทางการเกษตรประมาณ ๕,๐๐๐ ไร่ ประชากรตำบลท่าซักรวม ๑๐,๐๒๔ คน ชาย ๔,๙๔๐ คน หญิง ๕,๐๘๔ คน จำนวนครัวเรือน ๓,๓๙๙ ครัวเรือน ความหนาแน่นของประชากร ๒๓๓ คนต่อตารางกิโลเมตร
พืชเศรษฐกิจที่สำคัญ
พืชเศรษฐกิจที่สำคัญ คือ ข้าว เกษตรกรประกอบอาชีพการเกษตรมากกว่า ๑ กิจกรรม คือทำนาควบคู่กับการเลี้ยงสัตว์ ทำประมง เลี้ยงปลา และปลูกผัก
พืชสัตว์เศรษฐกิจ
เกษตรกร เลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุย ปูดำ ปลากะพง แพะ และวัวพันธ์พื้นเมือง
การประมง
เกษตรกรหมู่ที่ ๖ ถึงหมู่ที่ ๙ อยู่ติดกับบริเวณชายฝั่งทะเล มีอาชีพออกเรือหาปลา และเลี้ยงกุ้งนาธรรมชาติ
ข้อมูลการตลาด
- ข้าว เกษตรกรขายให้แก่พ่อค้าโรงสีในหมู่บ้าน และโรงสีในตำบลใกล้เคียง
- สัตว์ (สัตว์ปีก วัว แพะ) ขายกับพ่อค้าที่มารับซื้อในหมู่บ้าน และตลาดในตัวเมือง
- ประมง (ปลาดุก ปลากะพง กุ้ง ปูดำ) ขายให้กับแม่ค้าที่มารับซื้อที่ปากบ่อและบางส่วนนำไปขายในตลาดในตัวเมือง
- พืชผัก ขายให้กับแม่ค้าที่มารับซื้อในหมู่บ้าน และขายในตลาดในตัวเมือง
จากการสำรวจตำบลท่าซักมีแหล่งเรียนรู้หลายๆ แหล่งที่น่าสนใจ แต่ในที่นี้จะขอนำแหล่งเรียนรู้ชุมชนตำบลท่าซัก กลุ่มข้าวซ้อมมือตำบลท่าซัก ที่มีชื่อเสียงมาให้ทุกคนได้เรียนรู้ดังนี้
แหล่งเรียนรู้ชุมชนผลิตภัณฑ์ข้าวซ้อมมือตำบลท่าซัก
กลุ่มแม่บ้าน หมู่ที่๕ ตำบลท่าซัก อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรม ได้รวมตัวกัน โดยการนำของนางบำรุง สิริคุณ ซึ่งเป็นคนตำบลท่าซักดังเดิม แต่งงานกับนายมณี สิริคุณ มีบุตรด้วยกัน ๓ คน เป็นชายทั้งหมด เริ่มทำข้าวซ้อมมือตั้งแต่ปี ๒๕๔๙ ถึงปัจจุบันนี้ และนางบำรุง สิริคุณตอนนี้มีอายุ ๖๐ปีกว่าแล้ว ท่านได้กล่าวว่า คนแถบนี้ดั่งเดิมมีการทำนาเป็นอาชีพ และปัจจุบันยังมีการทำนาอยู่บ้าง แต่บางคนได้เลิกการทำนาไปแล้ว เพราะมีหลายปัจจัยดัวยกัน คือ ขาดทุน ไม่มีเวลา และรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ แต่สำหรับกลุ่มชุมชนท่าซักได้ตั้งกลุ่มขึ้นเพื่อผลิตข้าวซ้อมมือขึ้น ซึ่งดำรงไว้ซึ่งคุณค่าแห่งภูมิปัญญาของตำบลท่าซักเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาและยังมีแรงบันดาลใจมาจากพระราชดำริของพระเจ้าอยู่หัว เพราะในหลวงดำริว่าจะกินกล้องและข้าวซ้อมมือ เพื่อเป็นอนุรักษ์ในเรื่องของภูมิปัญญาท้องถิ่น และนางบำรุงยังได้กล่าวอีกว่า ได้ทำโครงการไปยังหน่วยงานของรัฐต่างๆ เพื่อขอความช่วยเหลือในเรื่องของงบประมาณมาช่วยสิ่งเสริมในการอนุรักษ์ผลิตข้าวซ้อมมือเอาไว้แต่ไม่ผ่านแม้แต่ครั้งเดียว จึงได้แต่ชักชวนคนในชุมชนที่เห็นคุณค่าของภูมิปัญญาการผลิตข้าวซ้อมมือของตำบลท่าซักให้อยู่ดำรงอยู่ได้ในปัจจุบันนี้
สำหรับตลาดที่ส่งไปขายมีหลายแห่งด้วยกัน เช่น ฝากกลุ่มประหลาดุกร้าไปขายตลาดต่างๆ เช่น ตลาดเปิดท้าย เป็นต้น ขายกิโลละ ๔๐ บาท และยังขายที่โรงพยาบาลมหาราชในทุกวันศุกร์ แต่สู่กับค่ารถไปไม่ไหวเลยต้องหยุดไป ปัจจุบันนี้นางบำรุงดำเนินการผลิตข้าวกล้องและข้าวซ้อมมือต่อไปถึงแม้อายุมาแล้ว แต่ยึดมั่นนิธานที่ว่า ในหลวงกินข้าวกล้องและข้าวซ้อมมือ การผลิต
ผลิตข้าวซ้อมมือ และข้าวกล้อง โดยข้าวที่นำมาผลิตคือ ข้าวสังหยด ซึ่งจะมีลักษณะเมล็ดจะออกสีแดงเข้ม จะง่ายต่อการหุง มีรสชาติอร่อย ไม่แข็ง วิธีการปรุงข้าวอาจจะผสมกับข้าวธรรมดาก็ได้ เหมาะสำหรับทุกวัย
กระบวนการผลิต
ในการผลิต กลุ่มแม่บ้านจะผลิตโดยใช้เครื่องบทกะเทาะเปลือกที่มีความหยาบ แต่ไม่ทำให้จมูกข้าวหักออก ซึ่งจะมีแรงงานคนคนเดียวหมุน คล้ายๆ โม้แป้ง ซึ่งเครื่องบดกะเทาะเปลือกนี้ถือได้ว่าเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นในชุมชน
หลังจากการที่มีการกะเทาะเปลือกออกแล้ว ก็จะมีการแยกเปลือกและเมล็ดออกจากกัน ข้าวที่ได้จะเป็นข้าวกล้อง คือข้าวที่ผ่านการกะเทาะเอาเปลือกออกเท่านั้น จึงหมายถึง ข้าวที่ผ่านขัดสีเพียงครั้งเดียว ข้าวที่ได้จึงเป็นข้าวที่มีสีขุ่น แต่เป็นข้าวที่ยังคงมีจมูกข้าวและเหยื่อหุ้มเมล็ดข้าว ซึ่งเป็นแหล่งรวมสารอาหารที่เปี่ยมล้นไปด้วยคุณค่าอยู่มาก) เป็นส่วนที่มีคุณค่าทางอาหาร เป็นประโยชน์แก่ร่างกาย
ความแตกต่างระหว่างข้าวกล้องกับข้าวซ้อมมือ
เมื่อการกะเทาะเปลือกและมีการแยกเปลือกข้าวออกจากกันก็จะเป็นข้าวกล้อง สำหรบบางคนไม่นิยมรับประธานข้าวกล้องเพราะมีความรู้สึกว่า ข้าวจะแข็ง รับประธานไม่อร่อย ทางกลุ่มก็ได้นำข้าวกล้องมาผลิตเป็นข้าวซ้อมมืออีกทางเลือกหนึ่ง ให้กับกลุ่มผู้บริโภคได้เลือก
โดยวิธีการนำข้าวกล้องมาตำกับครกไม้โบราณเพื่อขัดสีอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ได้ข้าวซ้อมมือที่มีรสชาติ นิ่ม อร่อย ไม่แข็ง
หลังจากที่ได้นำข้าวกล้องมาตำกับครกไม้โบราณเพื่อขัดสี เมื่อตำเสร็จก็จะนำข้าวที่ตำครกมาแยกข้าว แยกรำข้าว (จมูกข้าว) ออกจากกัน หลังจากนั้นก็นำมาบรรจุหีบห่อ
คุณประโยชน์ระหว่างข้าวกล้องและข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้องจะมีประโยชน์มากกว่าข้าวซ้อมมือ เนื่องจากข้าวกล้องได้ผ่านการขัดสีเพียงครั้งเดียว แต่ยังคงเป็นข้าวที่คงมีจมูกข้าวและเหยื่อหุ้มเมล็ดข้าว ซึ่งเป็นแหล่งรวมสารอาหารที่เปี่ยมล้นไปด้วยคุณค่าทางอาหารอยู่มาก ส่วนข้าวซ้อมมือหลังจากผ่านการกะเทาะเปลือกแล้วต้องนำมาตำกับครกโบราณอีกครั้ง ทำให้จมูกข้าวและเหยื่อหุ้มเมล็ดข้าวถูกทำลายไป ซึ่งเราจะเรียกจมูกข้าวที่ถูกทำลายไปว่า รำข้าว
ประโยชน์อันล้ำค่าของข้าวกล้อง
อาหารอายุวัฒนะ
ข้าวกล้องเป็นอาหารธรรมชาติที่ถือได้ว่าเป็นอาหาร มีสารอาหารกว่า ๒๐ ชนิด ข้าวกล้องมีสีน้ำตาลอ่อน เป็นข้าวที่ขัดสีเพียงครั้งเดียวเพื่อเอาเปลือกออก (เอาแกลบออก) จมูกข้าวและเหยื่อหุ้มเมล็ดข้าวซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมสารอาหารที่มีคุณค่าและประโยชน์ต่อร่างกายนั้นยังคงอยู่
ส่วนข้าวซ้อมมือถึงแม้จมูกข้าวจะถูกทำลายไปบ้างแต่ก็ยังมีสารอาหารเกือบสมบูรณ์ สำหรับข้าวที่เราบริโภคกัน เป็นข้าวที่ถูกขัดสีหลายครั้งจนเหลือแต่เนื้อข้าวสีขาว ที่แทบจะหาคุณค่าและประโยชน์ไม่ได้นอกจากแป้ง ซึ่งเราคุ้นเคยและติดใจกับความนุ่ม และสีขาวบริสุทธิ์น่ากิน จนมองข้ามคุณค่ามหาศาลของข้าวกล้องไป
คุณค่าทางอาหารและยา
ข้าวกล้อง มีคุณค่าทางอาหารที่สำคัญหลายอย่าง ในข้าวกล้องมีคาร์โบไฮเดรตให้พลังงานแก่ร่างกาย โปรตีนช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ไขมันชนิดที่มีอิ่มตัวให้พลังงานและความอบอุ่นแก่ร่างกาย เส้นใยเป็นส่วนเพิ่มกากอาหารทำให้การขับถ่ายสะดวก ป้องกันอาการท้องผูกและการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
มีวิตามินบี ๑ ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ช่วยการทำงานของระบบประสาทให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
มีวิตามินบี ๒ ช่วยป้องกันปากนกระจอก ช่วยเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงาน
มีไนอาซิน ช่วยในการทำงานของระบบผิวหนังและประสาท
มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ธาตุเหล็กช่วยสร้างเมล็ดเลือดแดง
ในจมูกข้าวมีวิตามินอี ซิลิเนียมและแมกนีเซียม ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบต่างๆ ของร่างกาย ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกนจากนี้วิตามินอี มีส่วนช่วยชะลอความแก่และซิลีเนียมช่วยป้องกันมะเร็งอีกด้วย
ข้าวกล้องกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ก้าวแรกของการควบคุมเบาหวานด้วยอาหาร คือการเปลี่ยนแปลงจากการกิน ข้าวกล้องดีต่อโรคเบาหวานหลายกรณี คือ
- ข้าวกล้องย้อยได้ช้ากว่า กลูโคสที่ซึมเข้าไปช้ากว่าการกินข้าวขาว แป้งขัดและน้ำตาล ทำให้ผ่อนการทำงานของตับอ่อนได้ดี
- ข้าวกล้องมีสารเส้นใยมากกว่าข้าวขาว แป้งขัดขาวและน้ำตาล (ซึ่งไม่มีสารเส้นใยเลย) สารเส้นใยช่วยให้อิ่มเร็ว การกินแต่ละมื้อจึงรับแคลอรี่ไปไม่มาก ทำให้เหลือน้ำตาลซึมเข้าไปในร่างกายน้อยลง การควบคุมเบาหวานก็ง่ายขึ้น
- ข้าวกล้องมีวิตามินบีพร้อม ซึ่งข้าวขาวไม่มี ทำให้ร่างกายได้พลังงานจากข้าวกล้องหมดจดกว่า กินข้าวกล้องปริมาณไม่มากแต่อยู่ท้อง เพราะมีสารเส้นใยสูง และไม่ค่อยหิวเพราะมีพลังงานใช้เหลือเฟือ จึงทำให้น้ำหนักลดลงได้ดีกว่าการกินข้าวขาว
ประโยชน์ที่ทุกคนจะได้รับจากแหล่งเรียนรู้ชุมชนกลุ่มผลิตภัณฑ์ข้าวซ้อมมือ
- ทุกคนจะได้เห็นคุณค่า รู้สึกรัก และห่วงแหน ชีวิตความเป็นอยู่และภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่ตนได้อาศัยอยู่
- ทุกคนที่ได้เรียนรู้วิธีการทำข้าวกล้องและข้าวซ้อมมือ และการเกิดความคิดริเริ่ม จะพัฒนาการผลิตให้เร็วขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของตลาด
- ทุกคนได้ทราบถึงประโยชน์ของข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร และสามารถนำไปเผยแพร่ให้ผู้อื่นทราบได้
- ทุกคนได้รับการปลูกฝังให้สนใจแหล่งเรียนรู้ในชุมชน หรือปัญหาของสังคมในชุมชน เพื่อจะได้นำความรู้นั้นไปใช้ในชีวิตประจำวัน
ปัญหาในการทำข้าวกล้องและข้าวซ้อมมือ
๑. สถานที่ส่งออกอยู่ไกล
๒. กลุ่มชุมชนที่ทำข้าวกล้องมีอายุสูงวัย
๓. ฝนไม่ตกตามฤดูกาล
๔. เกิดความขาดทุนอยู่กินไม่ได้ยั่งยืน
๕. งานมีให้เลือกมาขึ้นดีกว่ามาทำข้าวซ้อมมือ และมีค่าแรงแพงมาก
๖. ถุงใส่ข้าวกล้องและข้าวซ้อมมือต้องใช้โลโก้ ในการผลิตต้องใช้ต้นทุนสูงเช่นกัน
บทสรุป
ข้าวกล้องและข้าวซ้อมมือถือว่าเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นดังเดิมที่ชาวตำบลท่าซักช่วยกันอนุรักษ์เอาไว้ ด้วยแรงบันดาลใจจากแนวพระราชดำริของพระเจ้าอยู่หัวและยังได้เห็นคุณค่างทางภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของการทำกิน และยังเป็นการส่งเสริมสุขภาพของผู้คน เพราะข้าวกล้องและข้าวซ้อมมือมีคุณค่างทางอาหารและเป็นยาถือว่าเป็นภูมิปัญญาอย่างลุ่มลึกที่ผ่านกระบวนการคัดสรรค์เป็นอย่างดียิ่งของคนในชุมชนตำบลท่าซัก ภูมิปัญญาการผลิตข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือของชุมชนตำบลท่าซักดำรงอยู่ได้หรือมิได้ขึ้นอยู่กับชุมชนและหน่วยของรัฐจะให้ความสำคัญและให้ความสนใจเห็นคุณค่ามากน้อยเพียงใดหรือจะปล่อยให้ภูมิปัญญาในการทำข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือตายไปกับคนสมัยก่อน โดยที่คนรุ่นหลังมีให้ความสนใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น