วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ศาสนาพิธี


ศาสนาพิธี

การปฏิบัติตนต่อพระสงฆ์
                ความเข้าใจเรื่องวัด ศาสนพิธี และพิธีกรรมของสงฆ์ นับเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก เพราะจะมีผลให้การปฏิบัติตนต่อพระสงฆ์ในศาสนพิธีที่วัดเป็นไปด้วยความถูกต้อง เหมาะสมเรียบร้อย
                () วัด ตามทรรศนะของพุทธศาสนิกชน คืออาวาสที่ประดิษฐานอยู่อาศัยของพระพุทธรูปและพระภิกษุสงฆ์ รวมทั้งสถานที่ประกอบสังฆกรรมและพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาด้วยพุทธศาสนิกชนก็ควรทราบต่อไปว่า วัดนั้นมีกฎหมายกำหนดคุ้มครองว่า ผู้ใดจะกระทำการใดๆอันเป็นการเหยียดหยามวัดไม่ได้ ผู้ใดผืนทำลงไปต้องมีโทษตามกฎหมายคือโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีไม่เกินเจ็ดปี ปรับตั้งแต่สองพันบาทไม่เกินหนึ่งหมื่นสี่พันบาท ทั้งนี้วัดเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่เราทุกคนควรรักษาไว้
                () ศาสนพิธีต่าง ๆ แบ่งได้ดังนี้
                                ๑) ศาสนพิธีที่มีอยู่เป็นประจำทุกวันนี้ เช่น การทำวัตรเช้า-เย็น การถวายอาหารและรับศีลรับพรซึ่งชาวพุทธกระทำต่อพระสงฆ์ทุกวัน
                                ๒) ศานพิธีที่มีพิธีขึ้นตามพระธรรมวินัย ทุกวันพระขึ้น ๘ ค่ำ แรม ๘ ค่ำ แรม ๑๔ ค่ำ หรือ ๑๕ ค่ำ ถือตามจันทรคติในวันเหล่านี้จะมีพิธีกรรม เช่น การฟังเทศน์ รักษาอุโบสถ (ศีล ๘) เป็นต้น
                                ๓) ศาสนพิธีที่มีขึ้นเป็นครั้งคราว เช่น การบรรพชาสมเณร การอุปสมบท และการทำบุญกุศลต่าง ๆ
                                ๔) ศาสนพิธีตามวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คือ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา
                () พระสงฆ์ คือ พระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนาซึ่งอาศัยจำพรรษาอยู่ในวัดต่าง ๆ อยู่ในฐานะเป็นปูชนียบุคคลที่เคารพสักการะของชาวพุทธในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งแห่งพระรัตนตรัยแล้ว ตามกฎหมาย คือประมวลกฎหมายอาญา ยังได้บัญญัติคุ้มครองพระภิกษุสงฆ์ไว้ว่า ห้ามมิให้ผู้ใดแต่งกายหรือใช้เครื่องแต่งกายแสดงว่าเป็นพระภิกษุสามเณร เพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่าตนเป็นพระภิกษุสามเณร ใครกระทำการดังกล่าวมีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

การปฏิบัติตนที่เหมาะสมต่อพระสงฆ์ในศาสนพิธี
                ศาสนพิธี มีหลายอย่างตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนั้น โดยปกติแล้วมักจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับพระสงฆ์อยู่เสมอ เพราะในหมู่ชาวพุทธถือเอาพระสงฆ์เป็นผู้นำในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะรู้ถึงวิธีปฏิบัติตนที่เหมาะสมต่อพระสงฆ์ เพื่อผลอันไพบูลย์สืบต่อไป
                พิธีกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับศาสนพิธีมีอยู่หลายอย่าง เช่น ศาสนพิธีในวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันธรรมสวนะ หรือว่าวันพระ เป็นต้น ดังนั้นในส่วนนี้จึงขอกล่าวถึงการปฏิบัติตนที่เหมาะสมต่อพระสงฆ์ในการประกอบศาสนพิธีที่วัดไว้ในหลักการ ดังนี้
                ๑. การปฏิบัติตนเมื่อเข้าไปวัด ควรสำรวมกายวาจาให้เรียบร้อย ไม่ส่งเสียงดังเอะอะโวยวาย ซึ่งเป็นการรบกวนผู้อื่น ไม่ดื่มสุราและสิ่งเสพติดอื่นๆ ไม่ร้องรำทำเพลง
                ๒. การไปวัดเพื่อร่วมพิธีกรรมทางศาสนา การแต่งกาย ชาวพุทธควรยึดหลักสะอาด สุดภาพเรียบร้อย ถูกต้องเหมาะสมตามกาลเทศะ
                ๓. การประกอบพิธีกรรมทางศาสนาทุกอย่าง สิ่งสำคัญคือดอกไม้ ธูปเทียน และเครื่องสักการะบูชา ควรเตรียมให้พร้อม
                ๔. ควรไปถึงสถานที่ก่อนการประกอบศาสนพิธีจะเริ่มขึ้น และรอเวลาเริ่มพิธีด้วยอาการสงบเรียบร้อย
                ๕. พิธีกรรมใดที่ต้องเปล่งเสียง เช่น การกล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย การกล่าวคำอาราธนาศีล-อาราธนาธรรม การรับศีลเป็นต้น ควรเปล่งเสียงดังฟังชัดโดยพร้อมเพรียงกัน
                ๖. มีการแสดงพระธรรมเทศนา ควรตั้งใจฟัง



                ศาสนพิธี  ได้แก่วิธีการปฏิบัติให้ถูกต้องตามระเบียบแบบแผนของชาวพุทธในการประกอบพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา และยังเป็นการแสดงถึงความเลื่อมใสศรัทธาและความเป็นระเบียบของชาวพุทธในการประกอบพิธีกรรมด้วย
การจัดโต๊ะหมู่บูชา
                การจัดโต๊ะหมู่บูชา คือ การจัดที่สำหรับบูชาพระ แสดงให้เห็นถึงความศรัทธาและความเคารพในพระรัตนตรัย ซึ่งการบูชามี 2 ประการ คือ
                1.1  การบูชาด้วยดอกไม้ธูปเทียน สิ่งของและเครื่องสักการะอื่น ๆ รวมเรียกว่า อามิสบูชา
                1.2  การปฏิบัติตนตามหลักคำสอน เรียกว่า ปฏิบัติบูชา
อามิสบูชาและปฏิบัติบูชา มีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงออกถึงความเคารพสักการะในพระพุทธเจ้า เพื่อยกระดับพัฒนาคุณภาพจิตใจตนเอง เตือนใจตนเองให้มุ่งทำความดี และเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต การจัดโต๊ะหมู่บูชาสามารถแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะ ดังนี้
                1.1  การจัดโต๊ะหมู่บูชาในงานพิธี
                ในงานบุญพิธีต่าง ๆ รวมทั้งในการประชุมสัมมนา ตามประเพณีนิยมของไทย มักจัดให้มีที่บูชาพระรัตนตรัยประกอบด้วย อย่างน้อยที่สุด คือ พระพุทธรูป ดอกไม้ เชิงเทียน และกระถางธูป
                การจัดสถานที่บูชาพระรัตนตรัย นิยมจัดเป็นโต๊ะหมู่บูชาเบื้องต้นที่สุดอาจเป็นโต๊ะเดี่ยว ใช้ผ้าขาวหรือผ้าสะอาดปูรองพื้น เพื่อเป็นที่ตั้งพระพุทธรูป
              การตั้งพระพุทธรูป นิยมตั้งหันพระพักตร์ไปทางเดียวกับพระสงฆ์  โดยพระสงฆ์นั่งทางเบื้องซ้ายของพระพุทธรูป ทั้งนี้เพราะประเพณีนิยมถือว่าพระพุทธรูปซึ่งเป็นองค์แทนพระพุทธเจ้าเป็นประธาน และมีเครื่องบูชา ได้แก่ ดอกไม้ ธูป เทียน โดยการจัดมีหลายลักษณะ ดังนี้
                1) การจัดโต๊ะหมู่เดี่ยว
                การจัดโต๊ะหมู่แบบเดี่ยวประกอบด้วย
                                1) พระพุทธ1 องค์             
                                2) แจกัน 2
                                3) เชิงเทียน 2
                                4) กระถางธูป 1
                (2) การจัดโต๊ะหมู่ 5 ประกอบด้วย
                                1) พระพุทธรูป 1 องค์
                                2) แจกัน 4
                                3) พานดอกไม้ 5
                                4) เชิงเทียน 6 (หรือ 8)
                                5) กระถางธูป 1
                                6) โต๊ะหมู่ 5
                นอกจากนี้ยังมีการจัดโต๊ะหมู่ 7หมู่ 9 ซึ่งเป็นเพิ่มที่โต๊ะหมู่และเชิงเทียน
                (3) การจัดโต๊ะหมู่ 7 ประกอบด้วย
                1) พระพุทธรูป 1
                2)แจกัน 4
                3) พานดอกไม้ 5
                4) เชิงเทียน 8 (หรือ 10)
                5) กระถางธูป
                6) โต๊ะหมู่ 7
                (4) การจัดโต๊ะหมู่ 9 ประกอบด้วย
                ) พระพุทธรูป
                2) แจกัน 6
                3) พานดอกไม้ 7
                4) เชิงเทียน 10(หรือ 12)
                5) กระถางธูป
หมายเหตุ : การจัดโต๊ะหมู่เดี่ยว หมู่ 5 หมู่ 7 และหมู่ 9เป็นการจัดประกวดหรือใช้ในพิธี
การจัดโต๊ะหมู่ประจำบ้าน
                การจัดที่บูชาพระรัตนตรัยที่บ้าน นิยมจัดกันตามสภาพและฐานะของเจ้าของบ้าน กล่าวคือ อาจจัดเป็นหิ้งพระติดข้างฝาบ้าน จัดเป็นโต๊ะหมู่บูชาเดี่ยวหรือการจัดห้องพระประจำบ้าน รูปแบบและการจัดโต๊ะหมู่จัดมีรูปแบบเดียวกันกับการจัดในงานพิธี ส่วนเครื่องบูชาควรดอกไม้ ธูป เทียน แล้ว เจ้าของบ้านอาจจัดตามความจำเป็นเท่าที่มีก็ได้
การจุดธูปเทียน
                การจุดธูปเทียน เป็นการเริ่มต้นในการประกอบพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาเป็นหน้าที่ของเจ้าภาพเป็นผู้จุดธูปเทียน เว้นแต่ได้เชิญบุคคลอื่นมาเป็นประธานในพิธี แต่ถ้างานนั้นมีพิธีกรก็ให้พิธีกรนั้นเป็นผู้เชิญเจ้าภาพหรือประธานมาจุดธูปเทียน
                การจุดเทียน นิยมจุดเล่มด้านขวาของพระพุทธรูปหรือซ้ายมือของผู้จุดก่อน ถ้าเทียนหลายเล่ม นิยมจุดคู่บนก่อน แล้วเลื่อนมาจุดคู่ล่าง โดยเริ่มจากเล่มขวามือของพระพุทธรูปก่อน
                การจุดธูป ถ้าธูปจุ่มน้ำมันหรือติดเชื้อไว้ก็ใช้เทียนชนวน แต่ถ้าธูปไม่ได้จุ่มน้ำมันหรือติดเชื้อไว้ก็ถอนก้านธูปไปจุดที่เทียนชนวนหรือใช้ไม้ขีดไฟหรือไฟแช๊กแล้วแต่ความเหมาะสม การปักธูปนิยมปักเรียงรายพองาม ไม่ควรนำธูปกวมลงทีเดียวทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามและดูไม่สวยงาม
การอาราธนาศีล
                คำว่า อาราธนา เป็นคำศัพท์ที่ใช้กับพระสงฆ์ แปลว่า เชื้อเชิญ การอาราธนาศีล จึงหมายถึงการเชื้อเชิญพระสงฆ์ให้ศีล หรือการขอรับศีล การประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ในทางพระพระพุทธศาสนา เริ่มต้นด้วยการอาราธนาศีล โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้พระสงฆ์เตือนสติมิให้กระทำความผิด ความชั่ว แล้วตั้งใจรักษาศีล รวมทั้งเป็นการชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์ เพื่อรองรับการประกอบความดีต่อไป
                การอาราธนาศีล หากในงานนั้นมีพิธีกรก็เป็นหน้าที่ของพิธีกร แต่ถ้าไม่มีพิธีกรเจ้าภาพจะอาราธนาเองหรือจะขอให้ผู้ใดผู้หนึ่งในงานนั้นเป็นผู้อาราธนาก็ได้
คำอาราธนาศีล 5
                มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะสีลานิ ยาจามะ
ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถาย ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะสีลานะ ยาจามะ
ตติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจสีลานิ ยาจามะ
คำแปล
                ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอสมาทานศีลห้าพร้อมด้วยสรณะทั้ง 3 เพื่อต้องการรักษา แยกกันเป็นข้อ ๆ       
                ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอสมาทานศีลห้า พร้อมด้วยสรณะทั้ง 3 เพื่อการรักษา แยกกันเป็นข้อ ๆ แม้ครั้งที่ 2
                ข้าแต่ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอสมาทานศีลห้า พร้อมด้วยสรณะทั้ง 3 เพื่อต้องการรักษาแยกกันเป็นข้อ ๆ แม้ครั้งที่ 3
การสมาทานศีล
                การสมาทานศีล คือ ความตั้งใจที่จะรับศีลหรืองดเว้นจากความชั่วนั้น ๆ เช่น งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ เสพสุราเมรัยและของมึนเมาต่าง ๆ อันทำให้เกิดความประมาท ขาดสติสัมปชัญญะ ในการรับศีล พระสงฆ์จะเป็นผู้กล่าวเป็นภาษาบาลี เมื่อจบแต่ละข้อแล้ว ผู้เข้าร่วมงานว่าตามดังนี้
คำสมาทาน
                ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
                อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
                กาเมสุ มิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
                มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
                สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง
คำแปล
ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เจตนางดเว้นจากการฆ่าสัตว์และเบียดเบียน
ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เจตนางดเว้นจากการถือเอาของที่เจ้าของยังไม่ได้ให้
ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท ด้วยการงดเว้นจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลาย
ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบทด้วยการงดเว้นจากการกล่าวคำเท็จ
ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบทด้วยการงดเว้นจากการดื่มน้ำเมาอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
การอาราธนาพระปริตร
                การอาราธนาพระปริตร หมายถึงการขอหรือการเชื้อเชิญให้พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ และเป็นการเตรียมพร้อมที่จะรับฟังบทเจริญพระพุทธมนต์ ในบทที่ว่าด้วยพุทธานุภาพ เพื่อป้องกันภัยพิบัติและสร้างความเป็นสิริมงคลให้เกิดขึ้นแก่ชีวิต การอาราธนาพระปริตรกระทำต่อกันภายหลังจากการสมาทานศีล  คำ อาราธนาพระปริตร
                                วิปัตติปะฏิพาหายะ             สัพพะสัมปัตติสิทธิยา
                                สัพพะทุกขะวินาสายะ       ปะริตตัง พะรูถะ มังคะลัง
                                วิปัตติปะฏิพาหายะ             สัพพะสัมปัตติสิทธิยา
                                สัพพะภะยะวินาสายะ       ปะริตตัง พะรูถะ มังคะลัง
                                วิปัตติปะฏิพาหายะ             สัพพะสัมปัตติสิทธิยา
                                สัพพะโรคะวินาสายะ        ปะริตตัง พะรูถะ มังคะลัง
คำแปล
                ขอท่านทั้งหลาย จงกล่าวพระปริตรอันเป็นมงคล เพื่อป้องกันวิบัติ เพื่อให้สำเร็จสมบัติ เพื่อความพินาศแห่งทุกข์ทั้งปวง
                ขอท่านทั้งหลาย จงกล่าวพระปริตรอันเป็นมงคล เพื่อป้องกันวิบัติ เพื่อให้สำเร็จสมบัติ เพื่อความพินาศแห่งภัยทั้งปวง
                ขอท่านทั้งหลาย จงกล่าวพระปริตรอันเป็นมงคล เพื่อป้องกันวิบัติ เพื่อให้สำเร็จสมบัติ เพื่อความพินาศแห่งโรคทั้งปวง
การอาราธนาธรรม
                การอาราธนาธรรม หมายถึง การขอร้องหรือเชื้อเชิญให้พระสงฆ์แสดงธรรม เพื่อชี้แนะแนวทาง การปฏิบัติความดี ความหลักพระพุทธศาสนา โดยปกติแล้วการอาราธนาธรรม จะกระทำเมื่อต้องการให้พระสงฆ์พระธรรมเทศนา     หรือในโอกาสอาราธนาพระสงฆ์ให้สวดพระพุทธมนต์
                การปฏิบัติ พิธีกรหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าภาพเป็นผู้กล่าวคำอาราธนาธรรมหลังจากการรับศีลเสร็จแล้ว อาจจะนั่งหรือยืนประนมมือตามความเหมาะสม


คำอาราธนาธรรม
                พรัมมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ
                กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อายาจาถะ
                สันตีธะ สัตตาปปะระชักขะชาติกา
                เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

คำแปล
                ท้าวสหัมบดีพรหม ผู้เป็นใหญ่ในพรหมโลกได้ลงมาประคองอัญชลี กราบทูลขอพรอันประเสริฐว่า สัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ ประเภทมีธุลีในจักษุน้อยก็พอมี ขอพระองค์จงทรงแสดง พระธรรมเทศนา เพื่อสงเคราะห์หมู่ประชาสัตว์พวกนี้เถิด


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น