เพลงสอน
ศาสนาสอนเราให้ละชั่ว ประพฤติตัวเป็นคนดีที่สรรเสริญ
ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ไม่ขาดเกิน แม้จะเดินนอนนั่งระวังกาย
ไตรสิกขานั้นเป็นสิ่งประเสริฐ ทำให้เกิดให้มีชีวีสดใส
ศีล สมาธิ ปัญญาสุขใจ หากทำได้ไม่ต้องกลัวความอับจน
รักตัวกลัวกรรมอย่าทำชั่ว จะหมองมัวหม่นไหม้ไปเมืองผี
จงหมั่นกระทำแต่กรรมดี จะได้มีความสุขพ้นทุกข์เอย
พระท่านสอนให้เราเป็นคนดี จะได้มีอนาคตที่สดใส
จะเป็นคนชั่วไปทำไม ไม่ทำให้ชีวิตเราดีเลย
เพราะฉะนั้นเราจึงเชื่อฟังครู ที่ท่านให้ความรู้ชูสมอง
จะทำอะไรควรไต่ตรอง จึงไม่ต้องเสียใจในทันที
คนเราเกิดมาต้องมีแก่ เจ็บและตายคลายทุกข์สุขนักหนา
เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ที่จะพาให้เราเข้านิพพาน
อนิจจัง นั้นคือความไม่เที่ยง ที่เอนเอียงผันแปรอยู่เสมอ
ทั้งคุณ ทั้งผมและตัวเธอ จะต้องเจออนิจจังไม่ยั่งยืน
ทุกขัง นั้นก็คือความทุกข์ ปราศจากสุขทุกข์แท้ก็แปรผัน
ที่เราอยู่กันได้ทุก ๆวัน เพราะเรานั้นมีความทุกข์เป็นเจ้าเรือน
อนัตตา นั้นคือความว่างเปล่า ไม่มีตัว ทั้งตนบุคคลเราเขา
พิจารณาในสิ่งที่ไม่มีเรา เพียงคอยเฝ้าดูความจริงของรูปนาม
เพราะฉะนั้นเราจึงควรไม่ประมาท เดี๋ยวจะพลาดกับความดีที่ใฝ่ฝัน
ลุ่มหลงมัวเมาทำไมกัน เพราะสักวันจะต้องตายวายชีวา
สุภาษิตสอนใจ
๑. ความดีของการสะดุดคือ ช่วยไม่ให้ล้ม
๒. คิดก่อนทำจะสำฤทธิ์ ทำก่อนคิดจะเสียหาย
๓. ความทุกข์ทรมาน จะเป็นฐานทำให้คนรู้จักคิด
๔. โง่แล้วยังหยิ่ง ก็ยิ่งจะจมลง
๕. เมื่อมีอำนาจวาสนาจงอย่าโลภ
๖. จงดูให้ดี ๆ ก่อนที่จะกระโดด
๗. โรคร้ายไม่อาจรักษาได้ด้วยยาเลว
๘. เมื่อไม้ใหญ่โค่นล้ม ร่มเงาก็หายไป
๙. หมั่นให้อภัยแก่คนทั้งหลาย เว้นไว้แต่ตัวเอง
๑๐. ถึงคนสร้างตายไป กำแพงใหญ่ก็ยังอยู่ (กำแพงเมืองจีน)
๑๑. จงพยายามฝึกตนให้รู้จักความอดทนแต่วัยเยาว์
๑๒. เงินไม่วิ่งไปหาใครที่ไม่ทำอะไรเลย
๑๓. โง่หรือฉลาดเพียงใดดูที่วาจา
๑๔. น้อยแต่มีธรรม ดีกว่ามากล้ำแต่ธรรมไม่มี
๑๕. ประตูบานไหนก็ไม่ใหญ่เท่าปากคน
๑๖. เมื่อไม่ศึกษาก็ไม่รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก
๑๗. สิ่งที่พึงกลัวไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าความกลัว
๑๘. เมื่อไม่มีคนซื้อ สินค้าก็คือต้นหญ้า
๑๙. ถึงตัวจะเป็นขี้ข้า แต่อย่าให้ผ้าเหม็นสาบ
๒๐. โง่มาข้างหน้า ฉลาดมาตามหลัง
๒๑. จะไปถึงช้า หรือว่าจะไปป่าช้า
๒๒. มีใครบ้างที่พบสุขโดยที่ไม่เคยมีทุกข์
๒๓. ยิ่งร้อนรนผลก็ยิ่งเสีย
๒๔. การขึ้นต้นไม้จะต้องไต่ไปจากโคน
๒๕. หินผาย่อมมาจากเม็ดทราย
๒๖. การสั่งว่าอย่าบอกใครๆ ไม่ใช่วิธีเก็บความลับ
๒๗. เมื่อไม่มีดีข้างใน จะมีดีอะไรออกมาข้างนอก
๒๘. ชีวิตคือการทดลองเรื่อยไปไม่มีที่สิ้นสุด
๒๙. เมื่อไม่ทำความดีบนดิน จะถวิลถึงสวรรค์นั้นอย่าหมาย
๓๐. เมื่อมีวันเริ่มต้น ก็ไม่พ้นวันสิ้นสุด (เกิด ตาย)
๓๑. สิ่งที่ทำย่อมมีค่าสูงกว่าสิ่งที่พูด
๓๒. ความร้อนพิสูจน์ทองนาก ความทุกข์ยากพิสูจน์คน
๓๓. เมื่อทำความดีลงไป อย่าคิดว่าคนจะพอใจไปทุกอย่าง
๓๔. สอนสุนัขแก่ๆ ให้ทำสิ่งใหม่ย่อมไร้ผล
๓๕. สองหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว
๓๖. ทั้งดีชั่วที่ตัวทำผลกรรมจะสนอง
๓๗. ความเป็นมิตรสหายไม่มีในคนชั่ว
๓๘. ตีเหล็กเมื่อยังร้อน สอนคนเมื่อยังเยาว์
๓๙. ผู้ใหญ่ชังยังไม่ร้ายเท่าเด็กเกลียด
๔๐. เป็นคนแก่เป็นง่าย แต่เป็นผู้ใหญ่เป็นยาก
๔๑. คันสอนจะไร้ค่าถ้าปราศจากสาย
๔๒. ถ้าพูดโดยไม่คิด ก็จะเป็นยาพิษฆ่าผู้พูด
๔๓. ถ้าอดทนไม่ท้อถอย สิ่งที่รอคอยจะมาถึง
๔๔. วิธีขอพรจากพระเจ้าคือ หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน
กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
บทสรภัญญะ
กราบไหว้พระคุณของบิดามารดา
ข้าขอกราบไหว้คุณ พระบิดาและมารดา
เลี้ยงลูกเฝ้ารักษา แต่ก่อนมาจึงเป็นคน (ซ้ำ)
แสนยากลำบากกาย ไม่คิดยากลำบากตน
ในใจให้กังวล อยู่ด้วยลูกทุกเวลา (ซ้ำ)
ยามกินถ้าลูกร้อง ก็ต้องวางวิ่งมาหา
ยามนอนไม่เต็มตา พอลูกร้องก็ต้องดู (ซ้ำ)
ตัวเรือดยุงไรมด จะกวนกัดรีบอุ้มชู
อดกินอดนอนสู้ ทนลำบากหนักไม่เบา (ซ้ำ)
คุณพ่อแม่มากนัก เปรียบน้ำหนักยิ่งภูเขา
แผ่นดินทั้งหมดเอา เปรียบคุณท่านไม่เท่าทัน (ซ้ำ)
เหลือที่จะแทนคุณ ของท่านนั้นใหญ่อนันต์
เว้นไว้แต่เรือนธรรม์ เอามาสอนพอผ่อนบุญ (ซ้ำ)
สอนธรรมที่จริงใจ รูปไม่เที่ยงไว้เป็นทุน
แล้วจึงแสดงคุณ ให้เห็นจริงตามทำนอง (ซ้ำ)
นั่นแหละจึงนับได้ ว่าสนองซึ้งคุณนา
แทนข้าวที่ป้อนมา และน้ำนมที่ดื่มกิน (ซ้ำ)
แทนคุณประการอื่น ร้อนพันหมื่นเป็นอาจิณ
อย่างใดก็ไม่สิ้น พระคุณนั้นอนันต์เอย (ซ้ำ)
.........................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น