บทที่ ๕
สรุป ผลการวิจัย และข้อเสนอแนะ
การศึกษาเรื่อง “วิเคราะห์บทบาทในกรเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาภิกขุ)” การวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้กำหนดวัตถุประสงค์ของการวิจัยไว้ดังนี้
๑.เพื่อศึกษาชีวประวัติ ข้อวัตรปฏิบัติ แนวคิดของพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ)ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
๒.เพื่อศึกษาวิเคราะห์บทบาทของพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
๓.เพื่อศึกษาผลของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ)
การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ในลักษณะ วิเคราะห์บทบาทของพระสงฆ์ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) ผู้วิจัยได้กำหนดกรอบเพื่อการศึกษาวิเคราะห์ไว้ ๓ ประเด็นดังต่อไปนี้คือ
ประเด็นที่ ๑ ศึกษาชีวประวัติ ข้อวัตรปฏิบัติ แนวคิดของพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ)ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
ประเด็นที่ ๒ ศึกษาบทบาทในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ๓ ด้าน คือ
๑. บทบาทการเผยแผ่ด้วยการปฏิบัติตนเป็นต้นแบบ
๒. การเผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วยสื่อเอกสารสิ่งพิมพ์
๓. บทบาทด้านกลุ่มบุคคลในการเผยแผ่
ประเด็นที่ ๓ ผลของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ)
๑. ผลต่อบุคคลและกลุ่มบุคคล
๒. ผลต่อสังคม
๓. ผลต่อพระพุทธศาสนา
๔. ผลต่อสันติภาพโลก
การศึกษาเรื่อง วิเคราะห์บทบาทในกรเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาภิกขุ) การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยผู้วิจัยใช้วิธีการศึกษาวิเคราะห์เอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง (Documentary Research) ซึ่งผู้วิจัยได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Source) ได้แก่ เอกสาร งานวิจัย บทความ และสิ่งพิมพ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา แล้วเสนอการศึกษาวิเคราะห์ตามแบบพรรณนาวิเคราะห์ ซึ่งได้กำหนดวิธีดำเนินการวิจัยไว้ตามขั้นตอนดังนี้
๑ ขั้นเตรียมการ
๒ ขั้นรวบรวมข้อมูล
๓ วิเคราะห์ข้อมูล
๔ เสนอผลการศึกษาวิเคราะห์
๑ .ขั้นเตรียมการ
ข้อมูลสำหรับการศึกษาวิจัยครั้งนี้สามารถแบ่งได้เป็น ๒ ลักษณะ คือ
๑) ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Data) คือ ข้อมูลเพื่อการวิจัยที่รวบรวมได้จากการเก็บข้อมูล จากพระไตรปิฎกนอกจากการรวบรวมข้อมูล เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ใกล้เคียงมากที่สุด
๒) ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Data) คือ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยโดยรวบรวมจาก เอกสาร สิ่งพิมพ์ งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) สวนโมกขพลาราม อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเป็นพื้นฐานในการวิจัย
๒.ขั้นรวบรวมข้อมูล
โดยการ เตรียมศึกษาข้อมูลด้านเอกสารเบื้องต้นเกี่ยวกับพื้นที่ที่ทำการศึกษา จากนั้นจึงลงสำรวจพื้นที่ครั้งแรก นอกจากนี้ยังเตรียมอุปกรณ์ในการเก็บข้อมูลอื่นๆ อีก เช่น สมุดบันทึก กล้องถ่ายรูป เครื่องบันทึกเสียง เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล การศึกษาครั้งนี้ใช้วิธีการเก็บข้อมูลหลายวิธีประกอบกัน ได้แก่ การเก็บข้อมูลจากเอกสาร ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
การเก็บข้อมูลจากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง (Documentary Research) ซึ่งผู้วิจัยได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Source) โดยจะทำการค้นคว้าจากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ เอกสาร งานวิจัย บทความ จดหมายเหตุและสิ่งพิมพ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ)
๓ วิเคราะห์ข้อมูล
การวิเคราะห์ข้อมูล เป็นการนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์โดยแยกแยะตามประเด็นที่ศึกษา โดยหาสิ่งที่เหมือนกัน สิ่งที่ต่างกัน หรือสิ่งที่สัมพันธ์กันขององค์ความรู้เกี่ยวกับพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) สวนโมกขพลาราม อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังจากนั้นจะทำการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ซึ่งเป็นการนำผลการวิเคราะห์ที่ได้มาวิเคราะห์ความถูกต้องว่าสามารถตอบวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้หรือไม่ และสรุปอ้างอิงไปถึงสภาพการณ์จริงได้มากน้อยเพียงใด หลังจากนั้นได้ตรวจสอบข้อมูลตรวจสอบความสมบูรณ์ เก็บข้อมูลเพิ่มเติมในกรณีที่ข้อมูลบางส่วนขาดความสมบูรณ์ ต่อจากนั้นจึงวิเคราะห์ สังเคราะห์ ตามขอบเขตด้านเนื้อหาที่กำหนดไว้
๔.เสนอผลการศึกษาวิเคราะห์
การสรุป อภิปรายและนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล เป็นขั้นตอนที่นำข้อสรุปมาสังเคราะห์เชื่อมโยงสู่ภาพรวม และเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลในลักษณะของ การพรรณนาวิเคราะห์ (Descriptive Analysis)
๕.๑ สรุปผลการวิจัย
๑. เพื่อศึกษาชีวประวัติ ข้อวัตรปฏิบัติ แนวคิดของพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ)ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ผลการวิจัยพบว่า การศึกษาวิเคราะห์บทบาทในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) ผู้วิจัยได้จำแนกประเด็นศึกษาชีวประวัติมีประเด็นดังต่อไปนี้
๑.๑ ชีวประวัติของพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ)
พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) เกิดในตระกูลพ่อค้า และไดยึดอาชีพนี้มาโดยตลอดในช่วงชีวิตก่อนที่จะได้เข้ามาสู่ร่มเงาของผ้ากาสาวพัตรเพราะต้องช่วยงานโยมมารดา เพราะบิดาเสียชีวิตไปก่อนหน้านั้นแล้ว จึงทำให้การศึกษาของพระธรรมโกศาจารย์พุทธทาสภิกขุ ใช้เวลาที่ว่างจากการทำงานที่บ้าน ถึงแม้จะน้อยนิดมาศึกษาค้นคว้า ตำรับตำรา เพื่อต้องการหาความรู้ใส่ตนจนกระทั้งได้ประสบความสำเร็จตามความปรารถนา
๑.๒ ข้อวัตรปฏิบัติของพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ)
พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) มีวัตรปฏิบัติเป็นไปอย่างอย่างเรียบง่าย โดยยึดหลักที่ว่า เป็นอยู่อย่างต่ำ มุ่งกระทำอย่างสูง ดังตัวอย่างต่อไปนี้คือ การหนุนหมอนไม้ท่านได้ปฏิบัติและเชิญชวนพระภิกษุตลอดเวลาเพื่อเป็นเครื่องปฏิบัติโดยถือหลักชาคริยานุโยค เป็นการปฏิบัติเป็นเครื่องตื่นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งให้ท่านให้ความสำคัญในพุทธวจนะที่ว่า “กลิงฺค รูปทานํ ภิกฺขเว วิหารถ ซึ่งแปลว่า ภิกษุทั้งหลาย เธอจงเป็นผู้มีท่อนไม้เป็นหมอนเถิด เมื่อมีท่อนไม้เป็นหมอน มารจักไม่เปิดโอกาส ” เรื่องของการเป็นอยู่ในการปฏิบัติธรรมในเรื่องอื่นๆ ท่านยังเน้นความเป็นอยู่ที่ให้เข้ากันได้กับธรรมชาติที่ว่า “กินข้าวจานแมว อาบน้ำในคู นอนกุฏิเล้าหมู ฟังยุงร้องเพลง”
๑.๓ แนวคิดในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ)ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) ท่านมุ่งเน้นปณิธาน ๓ ประการของท่านเป็นหลักในการปฏิบัติงานเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาคือ
๑.ปณิธานข้อแรก คือ การทำให้ทุกคนเข้าถึงหัวใจของพุทธศาสนา เพื่อให้เกิดการปฏิบัติดีและตรง เป็นธรรมสมควรแก่การหลุดพ้น เพื่อสนองพุทธประสงค์โดยตรงอย่างแท้จริง
๒.ปณิธานข้อที่สอง คือ การทำความเข้าใจระหว่างศาสนานี้เป็นสิ่งจำเป็นต้องทำ เพราะโลกนี้ต้องมีมากศาสนาเท่ากับขณะของคนในโลก เพื่อจะอยู่ร่วมโลกกันได้โดยสันติ และทุกศาสนาล้วนแต่สอนความไม่เห็นแก่ตัว จะต่างกันบ้างก็แต่วิธีการเท่านั้น
๓.ปณิธานข้อที่ ๓ คือ การทำโลกให้ออกมาเสียจากอำนาจของวัตถุนิยม หรือรสอันเกิดจากวัตถุนิยมทางเนื้อหนังนั้น ควรเป็นกิจกรรมแบบสหกรณ์ของคนทุกคนในโลกและทุกศาสนา เพื่อโลกจะเป็น โลกสะอาด สว่าง สงบ จากสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
๒.บทบาทของพระธรรมโกศาจารย์(พุทธทาสภิกขุ) ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
๒.๑ การเผยแผ่ด้วยการปฏิบัติตนเป็นต้นแบบและเป็นต้นแบบในการปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง
พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) ได้มีบทบาทที่สำคัญยิ่งในการช่วยเหลือผู้คนในสังคมให้ดำเนินชีวิตอยู่ได้ด้วยความสุข โดยการแนะนำแนวทางการดำเนินชีวิตที่มีธรรมะเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงจิตใจ เช่น การให้ผู้คนในสังคมปฏิบัติธรรมด้วยการทำงานตามหน้าที่ที่มีอยู่ตามสถานภาพทางสังคม ท่านจะเน้นให้คนรักษาธรรมเอาไว้ เพราะธรรมเกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตของทุกๆอิริยาบถ ถ้าทำถูกต้องแล้วจะไม่ถูกความทุกข์ขบและกัด ท่านจะใช้คำว่าไม่กัดเจ้าของ ซึ่งคำที่ท่านจะเน้นมากที่สุดคือ การทำงานคือการปฏิบัติธรรม
๓.๒ เทคนิคและวิธีการในการเผยแผ่ของพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ)
การอบรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ)นั้นท่านนำเอาสื่อต่างๆ นำมาปรับปรุงให้น้อมเข้ามามองตัวเองก่อนจะไปมองสิ่งอื่น ดังตัวอย่าง การสร้างสื่อทางธรรมะ คือโรงมหรสพทางวิญญาณ แต่ละภาพจะต้องใช้ความคิดของตังเองเป็นหลักในการตีความหมาย เป็นการศึกษาธรรมะด้วยตัวเองโดยไม่รู้ตัว และสิ่งเป็นเครื่องศึกษาธรรมมากมายที่สวนโมกขพลารามล้วนมาจากความคิดของท่านที่ต้องการสื่อธรรมให้คนได้มาศึกษากลับไปอย่างคนได้ดวงตาที่สว่างทั้ง ๙ ตา คือตาแห่งปัญญา
๓.๒ บทบาทด้านกลุ่มบุคคลในการเผยแผ่
๓.๒.๑ การเผยแผ่พระพุทธศาสนาแก่ชาวต่างประเทศ
การเผยแผ่พระพุทธศาสนาแก่ชาวต่างประเทศนั้นพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ)ท่านจะใช้สวนโมกข์นานาชาติให้เป็นการอบรมซึ่งอยู่คนละฝั่งถนนกับสวนโมกขพลารามภายในจัดสถานที่ไว้เหมาะสมและมีธารน้ำรอนสำหรับใช้ชำระร่างกาย การอบรมชาวต่างชาติจะอบรมทุกวันที่ ๑-๑๐ ของทุกเดือนโดยจะมีพระภิกษุ และฆราวาสที่ประจำอยู่ที่สวนโมกขพลาราม จะรับผิดชอบกันไปในแต่ละช่วง
๓.๒.๒ การเผยแผ่พระพุทธศาสนาแก่ชาวไทย
สำหรับที่เป็นพระภิกษุ มีกาอบรมอาราปานสติภาวนาในค่ายลูกเสือในช่วงต้นเดือนของทุกเดือนเว้นในช่วงเข้าพรรษา ส่วนอุบาสิกา - อุบาสิกา ไปอบรมที่ธรรมมาตาแต่ต้องมีการคัดเลือกด้วยในการอบรมแต่ละครั้ง ซึ่งจะอบรมทุกวันที่ ๒๐-๒๖ ของทุกเดือน เพื่อขี้หลักธรรมะที่เป็นแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาตามที่พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ)ได้วางหลักไว้
๓.๒.๓ การเผยแผ่พระพุทธศาสนาตามโครงการขององค์กร
ซึ่งจะแบ่งเป็นการการอบรมระยะสั้นคือ การอบรมธรรมที่มีเวลาเพียง ๑-๒ วัน ซึ่งกิจกรรมที่สวนโมกขพลารามจัดให้หน่วยงานเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะเป็นการฟังธรรมบรรยายที่โรงมหรสพทางวิญญาณ ซึ่งผู้เข้าอบรมมีเวลาน้อย แต่จะได้ความรู้มาก ที่โรงมหรสพทางวิญญาณมีพระสงฆ์ผู้รับผิดชอบบรรยายภาพปริศนาธรรมให้เชื่อมโยงกับหลักธรรมการอบรมระยะยาว จะจัดการอบรมให้กับหน่วยงานที่แจ้งความประสงค์ขอเข้ารับการอบรมธรรมะ โดยที่หน่วยงานมีเวลาไม่ต่ำกว่า ๕ วัน ทางสวนโมกขพลารามจะจัดอบรมให้ตามโครงการของสวนโมกขพลาราม คือ การอบรมอานาปานสติภาวนา
๓.๒.๓ การเผยแผ่พระพุทธศาสนาตามโครงการพระธรรมทูต
โครงการอบรมพระธรรมทูตจะจัดขึ้นที่สวนโมกข์นานาชาติเป็นรุ่นๆ ซึ่งมีทั้งพระภิกษุสามเณร และบุคคลทั่วไป ในสมัยที่พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ)ท่านยังมีชีวิตอยูท่าจะอบรมด้วยตัวท่านเองและใช้สถานที่ของค่ายธรรมบุตร คือค่ายลูกเสือในการอบรมแต่ละรุ่นปัจจุบันทางสวนโมกขพลารามธรรมมาศรมนานาชาติขึ้นอีก ๑ แห่ง คือที่บ้านดอนเคี่ยม ตำบลพุมเรียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี สำหรับอบรมเฉพาะชาวต่างชาติโดยตรง โดยมีพระสันติกโร ซึ่งเป็นพระภิกษุชาวเยอรมันที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา
๔.ผลของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ)
๔.๑ ผลต่อบุคคลและกลุ่มบุคคล
พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) ในตอนที่ท่านเป็นฆราวาส มีความสนใจในธรรมะมาก่อน เรียกว่า นักเลงธรรมะเพราะท่านได้กัลยาณมิตรที่ดีคือพระลัด ทุ่ม อินฺทโชโต เป็นเจ้าอาวาสวัดนอก พระครูศักดิ์ ธมฺมรกฺขิโต เจ้าอาวาสวัดหัวคู (วินัย) ท่านพระปลัด ครูศักดิ์ เป็นพระ แต่เป็นที่นับถือของโยมมารดาท่านได้คอยให้คำแนะนำชี้แนะแนวทางอยู่ตลอดเวลาประคับประคองจนกระทั้งพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ)ที่เมื่อก่อก่อนคิดจะสึกแต่สุดท้ายสามารถอยู่ในเพศบรรพชิตทำหน้าที่สืบต่ออายุพระพุทธศาสนาต่อไป
๔.๒ ผลต่อสังคม
พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) ว่าท่านเป็นนักคิดอัจฉริยะของไทย มีผลงานด้านตำรามากมายให้ชาวไทยและชาวโลกได้ศึกษา ท่านตีความคำสอนของพระพุทธเจ้าให้สอดคล้องกับคนร่วมสมัย ด้วยปรัชญาและความลึกซึ้งทางจิตวิญญาณของท่านระบบความคิดของพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) เด่นชัดและสอดคล้องกับศาสตร์แห่งการดำเนินชีวิต ญาณทัศนะวิทยา และจริยธรรม ท่านเป็นปัจเจกบุคคลอยู่ในโลก โดยไม่หลีกเร้นจากโลก แต่เป็นส่วนหนึ่งของชุมชน
๔.๓ ผลต่อพระพุทธศาสนา
โมกขพลาราม เป็นสถานที่สร้างพระภิกษุสงฆ์ที่อยู่ในระเบียบของพระธรรมวินัย อยู่อย่างสงบ มีความสันโดษ ในสวนป่าที่เป็นกำลังแห่งความหลุดพ้นนั้น นอกจากนี้สวนโมกขพลารามยังได้ส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไป ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้ปฏิบัติธรรมอย่างถูกต้องตามหลักของพระพุทธศาสนา เช่น การสวดมนต์ภาวนา การฝึกสมาธิ การกินอาหาร รวมถึงการทำงานตามหน้าที่ โดยไม่ยึดมั่นถือมั่นแห่งสภาวะของการมีตัวตน
ข้อเสนอแนะ
การศึกษาเรื่อง วิเคราะห์บทบาทในกรเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะจำแนกได้เป็น ๒ ลักษณะดังต่อไปนี้
๑.ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
๑.๑ ควรนำผลของการศึกษาครั้งนี้นำไปปรับใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาส่งเสริมการปฏิบัติธรรม การเผยแผ่พระพุทธศาสนาของแต่ละวัด และให้เป็นแบอย่างที่ดีแก่วัดและสำนักปฏิบัติธรรมอื่นๆ ต่อไปด้วย
๑.๒ ควรปลูกฝังจิตสำนึกให้กับเยาวชนในการปฏิบัติธรรม และผู้คนในสังคม เพื่อจะได้เผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เข้าถึงจิตใจของประชาชน และเพื่อนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตตลอดถึงการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เป็นธรรมชาติต่อไป
๒. ข้อเสนอแนะในการทำวิจัยต่อไป
๒.๑ ควรจะได้มีการศึกษาวิเคราะห์บทบาทของพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) เปรียบเทียบบทบาทของวัด และสำนักปฏิบัติธรรมอื่นๆ ในด้านของการปฏิบัติธรรมเป็นแบบอย่าง และวิธีการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
๒.๒ ควรส่งเสริมการศึกษาเกี่ยวกับสวนโมกขพลารามในแต่ละด้าน เช่น การเผยแผ่หลักธรรมของนิกายต่างๆ ในพระพุทธศาสนา กลวิธีในการปฏิบัติธรรม และการเผยแผ่ศาสนาของพระพุทธเจ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น